วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การปลูกข้าว



การปลูกข้าวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีวิธีการปลูกข้าวอยู่ 3 วิธีได้แก่


1. การปลูกข้าวไร่ ต้องใช้ไม้ปลายแหลม หรือ “หัวสักลุ่ง” ที่ทำด้วยดินเผารูปกรวยสำหรับ
สวมปลายไม้แทงดินให้เป็นหลุมทีละหลุม แล้วหยอดเมล็ดพันธ์ข้าวลงไป ข้าวไร่เป็นข้าเบา มีอายุเก็บเกี่ยวเพียง 3-4 เดือน ไม่ต้องการน้ำแช่ขัง อาศัยน้ำฝน และความชุ่มชื้นของดิน ได้แก่ ข้าวเหนียวพันธ์บะต๋านของภาคเหนือ ข้าวเหนียวพันธ์ฮากไผ่ของภาคอีสาน และข้าวเจ้าพันธ์กอแหละของภาคใต้


2. การปลูกข้าวแบบนาหว่าน เป็นวิวัฒนาการของการปลูกข้าวที่เปลี่ยนจากการขุดหลุม
หยอดเมล็ดข้าวแบบปลูกข้าวไร่มาเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวลงไปในพื้นดินที่เตรียมไว้ อาจใช้เครื่องมือประเภทจอบสับดินให้ทั่วบริเวณที่จะหว่านข้าว หรือใช้ “ไถ” พลิกดินขึ้นแล้วหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวลงไป เมื่อฝนตกเมล็ดข้าวก็จะงอกงาม และตกรวง แม้การทำนาหว่านจะได้ผลไม่ดีนัก แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีการนำ “ไถ” ซึ่งเป็นเครื่องมือทำนาที่สำคัญมาใช้


3. การทำนาดำ วิวัฒนาการมาจากการทำนาหว่าน โดยปรับระดับพื้นที่นาให้ราบเสมอกัน
ยกคันนาเพื่อเก็บกักน้ำ และปรับระดับน้ำให้เหมาะสมกับความต้องการของข้าวแต่ละพันธุ์ และจัดระเบียบของการปลูกข้าวได้ตามต้องการ การทำนาดำแบบพื้อนบ้านเริ่มด้วยการ ไถดะ หรือไถครั้งแรก แล้วขังน้ำไว้ให้หญ้าและวัชพืชตาย ต่อมาจึง ไถแปร หรือคราด ก่อน ปล่อยน้ำออก แล้วไถแปรอีกครั้ง ขังน้ำไว้ 1 ถึง 2 วัน จึงคราดดินให้เป็นเทือก แล้วนำกล้ามาดำลงในพื้นที่ที่เตรียมไว้ หากเป็นนาที่ใช้รถไถนา ม้กขังน้ำไว้ในนาก่อน เมื่อไถ และคราดจนหญ้าตาย และดินเป็นเทือกดีแล้ว จึงนำกล้ามาปักดำ

การทำนาทั้งสามวิธีดังกล่าว เป็นการปลูกข้าวแบบพื้นบ้านที่ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือเครื่องใช้ที่ประดิษฐ์ขึ้นจากภูมิปัญญาของมนุษย์อย่างเรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่มีประสิทธิภาพสูง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น